ทำไมต้องมีตู้เซฟเพื่อใช้งานทั้งด้านธุรกิจและด้านทรัพย์สินต่างๆ

การเก็บรักษาพาสปอร์ต สูติบัตร โฉนด การ์ด เงินสด และกุญแจต่างๆ ในตู้เซฟทำให้เราสามารถหาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ง่ายดายขึ้น ซึ่งป้องกันการโจรกรรมได้ สำหรับคุณที่มีความกังวลเกี่ยวกับโจรที่ขโมยอัตลักษณะ สิ่งที่ควรรู้ คือ ตู้เซฟสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการเก็บรักษาความเป็นส่วนตัวของคุณให้กับคุณตลอดไป ปราศจากความกังวลและสนุกสนานไปกับการใช้ชีวิตได้ ทั้งนี้ตู้เซฟยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเก็บรักษาสิ่งที่ทรงคุณค่าทางจิตใจ (ไดอารี่ จดหมายเก่าๆ หรือต่างหูของคุณย่า) และเป็นที่ซ่อนที่วิเศษสุดสำหรับสิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่าจนไม่สามารถประเมินค่าได้ (เช่น งานที่คุณทำในช่วงหลายเดือนนี้ที่เก็บในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของคุณ)

สำหรับหลายๆท่านนั้นเชื่อว่า ตู้เซฟ อาจจะเป็นสินค้าที่ท่านมองข้าม เพราะคิดว่า อาจจะยังไม่มีความจำเป็นและดูมีราคาที่สูงเกินไป แต่ หากท่านที่เคยมีประสบการณ์หรือมองเห็นถึงเรื่องของความปลอดภัยในทรัพย์สิน ท่านแล้ว เชื่อว่าจะมอง ตู้เซฟ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและควรที่ไว้ที่บ้านหรือประจำธุรกิจท่านเป็นอย่างยิ่ง เราลองมาดูเหตุผลกันว่าทำไม ต้องมี ตู้เซฟ ไว้เพื่อใช้งาน

1.ป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดทรัพย์สินของท่าน

แน่นอนว่าวัตถุประสงค์หลักของ ตู้เซฟ ก็ คือ มีไว้เพื่อป้องกันในเรื่องของอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของท่าน อาทิเช่น การโจรกรรม อัคคีภัย ซึ่งหากท่านมี ตู้เซฟ ไว้ใช้งาน ก็สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ในเบื้องต้น เพราะ เมื่อมีขโมยเข้ามาและเจอ ตู้เซฟ ก็อาจจะเลี่ยงไม่สนใจ หรือ หากจะยกออกไป ก็อยู่ที่ ตู้เซฟที่เราเลือกใช้ด้วยว่า สามารถยกออกไปได้ไหม แต่ส่วนมาก ตู้เซฟ จะ มีน้ำหนักมาก ซึ่งยากต่อการยกเพียงลำพัง หรือกรณีที่เกิดอัคคีภัย ตู้เซฟ ทั่วไปสามารถกันไฟได้เป็นชั่วโมง ดังนั้น ท่านจึงมีเวลาในการหาทางดับไฟ และนำ ตู้เซฟ พร้อมทรัพย์สินออกมา

2.เพื่อเก็บข้อมูลหรือเอกสารสำคัญ

บางครั้งเมื่อเรามี ข้อมูลหรือเอกสารสำคัญ เราก็อาจจะไม่อยากเก็บไว้ในที่ปกติ การที่ เรามี ตู้เซฟ จะเป็นอีกทางเลือกในการเก็บเอกสาร ขอท่าน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่มีใครสามารถมาเปิดดูได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นแล้วเราจะเห็นว่า ตู้เซฟ มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง การที่เราจะมี ตู้เซฟ ไว้ที่บ้านหรือสำนักงาน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและชาญฉลาดอย่างยิ่ง

This entry was posted in ข้อมูลการตลาด and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.